วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
ประว้ติหลวงพ่อทบ พระครูวิชิตพัชราจารย์
หลวงพ่อทบ ธมฺมปญโญ ถือกำเนิดเกิดมาเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน4 ปีมะเส็ง ตรงกับวันท่ 3 มีนาคม พ.ศ.2424 ณ.บ้านยางหัวลม ตำบลนายม(ปัจจุบันแยกเป็นตำบลวังชมพู) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ หลวงพ่อทบเป็นบุตรคนที่3 ของคุณพ่อเผือกและคุณแม่อินทร์ ม่วงดีมี่น้อง4คน ได้แก่ 1 นายหว่าง ม่วงดี 2 นางใบ ม่วงดี 3 นายทบ ม่วงดี (หลวงพ่อทบ) 4 นางแดง ม่วงดี
การบรรพชาอุปสมบท เด็กชายทบเข้าบรรพชาเมื่ออายุได้16 ปี(พ.ศ.2440) ที่วัดช้างเผือก โดยมีพระอาจารย์สี เป็นพระอุปัชฌาย์ จนปีพ.ศ.2445 ท่านได้เข้าอุปสมบทที่วัดเกะแก้ว บ้านนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปานเป็นพระกรรมวาจา พระสีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธมฺมปัญโญ จากนั้นท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสนากรรมฐานจากพระอาจารย์ปานวัดศิลาโมง และพระอาจายร์เหง้า วัดบ้านติ้ว อำเภอหล่มสัก และออกธุดงค์แต่บัดนั้น
วาระศิษย์อาลัย วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2519 ทางวัดช้างเผือกได้จัดให้มีงานประจำปีและวางศฺลาฤกษ์พระอุโบสถหลังใหม่ ในวันนั้นฝนตกหนักมากคืนนั้นหลวงพ่อป่วยหนักมากวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2519 ตอนบ่ายได้มีการนำหลวงพ่อส่งโรงพยาบาลในกรุงเทพแต่ไปได้แค่บ้านนาเฉลี่ยงหลวงพ่อก็มรณภาพลงด้วยอาการสงบเมื่อเวลา 4 โมงเย็นของวันที่14 มีนาคม พ.ศ.2519
++++++++++++ สายวิชาและศาสตร์ทางพุทธาคม************
หลวงพ่อทบได้ศึกษาวิชาการสร้างตะกรุด มาจากหลวงพ่อสิ้ว คุณวโร โดยหลวงพ่อทบได้รับคำแนะนำจาก หลวงพ่อเง่า วัดบ้านติ้ว เมื่อครั้งหลวงพ่อทบท่านไปศึกษาวิปัสนาธุระ กับหลวงพ่อเง่า หลวงพ่อสิ้ว ได้เห็นถึงธรรมวิเศษที่ปรากฏในตัวหลวงพ่อทบ จึงถ่ายทอดสายวิชาตะกรุดโทน ตะกรุดพระเจ้าห้าพระองค์ ตะกรุดมหาปราบ ตะกรุดจะตุโร ตะกรุดมงคล๙ เฑาะว์มหาพรหม ด้วยเหตุนี้เองหลวงพ่อทบ ท่านปรากฏอานุภาพจึงเด่นในด้านมหาอุตม์ อันดับหนึ่ง แคล้วคลาดอันดับสองและเมตตาเป็นอันดับสาม - สายวิชาหลวงพ่อทบ ที่หลายท่านยอมรับและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด เป็นวิชาแม่ วิชาหลักในศาสตร์พุทธาคม คือ พระคัมภีร์ปถมัง พระเจ้าห้าพระองค์ มี 8 วรรค์ กับ 1 เกล็ด
ตามตำราโบราณท่านว่า ผู้ที่จะสำเร็จสายวิชานี้ จะต้องศึกษาให้สำเร็จทั้ง 8 วรรค 1 เกล็ดต้องศึกษาลงลึกไปถึงหลักวิชาและแก่นของวิชาแต่ละบทเมื่อสำเร็จวรรค 1 แล้วจึงศึกษาวรรค์2ต่อไปจนจบ จากนั้น จึงจะเรียนรู้ สายวิชาอื่นๆต่อไป ไม่ใช่ท่องจำ วิชานี้ต้องสำเร็จกสิณได้สมาบัติแล้วจึงจะสำเร็จ
วรรคที่ 1 นปัทมัง นะโมพุทธายะ ทำพิณธุ เสกพิณธุ ทำทัณเฑาะว์ เสกทัณเฑาะว์ ทำเภทะ เสกเภทะ ทำอังกุเสกอังกุ ทำสิระเสกสิระ ลบพิณธุ ทัณฑะ เภทะ อังกุ สิระ เป็น นะโมพุทธายะ ลบนะโมพุทธายะ เป็น มะ อะ อุ ลบ มะอะอุ เป็นองค์พระควัมปติ ลบองค์พระควัมปติ เป็นอะวะนะอุนาโลม ลบอะวะนะอุนาโลม เป็นสูญ ลบสูญ เป็นมหาสูญ ลบมหาสูญ เป็นนิพพานสูญ
วรรคที่สอง ปถมังนะโมพุทธายะ ลบนะโมพุทธายะ เป็นมะอะอุ ลบมะอะอุ เป็นอุทัยโองการ เป็นต้น
- แผ่นตะกั่วจะเป็นแผ่นรวมยันต์ พระคาถา อิติปิโส 8 ทิศ และพระคาถา สัมพุทเธ พุทธคุณครอบจักวาล
- แผ่นตะกั้วแผ่นที่ 4 จะเป็นแผ่นที่จารอักขระหัวใจพระพุทธ และอักขระ นะ ชา รี ติ เป็นแผ่นคุมยันต์ .....ตะกรุดหลวงพ่อทบ เป็นตะกรุดที่มีอานุภาพสูง ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านมหาอุตม์ แคล้วคลาด เมตามาหานิยม - ตะกรุดหลวงพ่อสิ้ว คุณวโร เป็นตะกรุดที่จารด้วย ยันต์นปัทมัง พระเจ้า 5 พระองค์ จากการแกะรอยจาร ที่ปรากฏบนแผ่นทองแดง ที่นูน ลึกชัด บ่งบอกถึงพลังในการจาร มีน้ำหนัก เข้ม ขลัง เรียกได้ว่าจารแบบเน้นๆ ดอกนี้เป็นตะกรุดทองแดง หุ้มทองแดง ปิดห้วท้ายด้วยแผ่นจารอักขระ เป็นตะกรุด มหาอุตม์ โดยแท้ ดอกนี้บ่งบอกว่า นี้เป็นตะกรุดสายวิชาเดียวกัน//// ตะกรุดดอกนี้สร้างก่อน ปี 2489 แน่นอน เพราะหลวงพ่อสิ้ว ท่านมรณะภาพ ปี 2489 อายุตะกรุด 60 กว่าปี ความสัมพันธ์ทางสายวิชา บ่งบอกได้จากเอกลักษณ์ที่เป็นรูปธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ในสายวิชานั้นๆ นี้คือที่สุดของตะกรุดสายเมืองเพชรบูรณ์ โดยแท้ - พระอาจารสี เป็นอุปฌาย์ให้ตอนหลวงพ่อทบท่านบรรพชา ต่อมาพระอาจารย์เมืองจากวัดแกะแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์มีพระอาจารยสีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์ปานเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สีมีความเกี่ยวข้องกับพระอาจารย์ปาน และที่เด่นชัดที่สุดคือพระอาจารย์ปานและพระอาจารย์สี ได้เป็นผู้ถ่ายถทอดวิชาศาสตร์ ทางพระพุทธาคมจากพระคัมภีร์ นปัทมัง พระเจ้าห้าพระองค์ พระคัมภีร์แม่บท พระคาถาอาคมแม่ธาตุ และยังได้เรียนรู้พระคาถาหัวใจ 108 พระคาถาพันเก้า จากนั้นพระอาจารย์สี และพระอาจารย์ปาน ได้แนะนำให้หลวงพ่อทบไปพบกับพระสังวรธรรมคุณหรือพระอาจารย์เง่า วัดบ้านติ้ว - การพบกันในครั้งนั้น หลวงพ่อทบได้เรียนวิปัสนาธุระจนได้ชาญสมาบัติแล้ว หลวงพ่อเง่ายังเมตตาถ่านทอดวิชากสิณ 10 วิชามหาภูติรูป 4 และที่นี้เอง ที่หลวงพ่อทบท่านได้สำเร็จเตโชกสิณขั้นสูง สามารถเพ่งพิจารณาพระอาทิตย์ได้ เป็นวิชาที่ถูกจริตกับหลวงพ่อทบมากที่สุด จากนั้นหลวงพ่อทบท่านได้เดินทางไปศึกษาเรียนวิชาสายตะกรุดจากหลวงพ่อสิ้ว ตามคำบอกของหลวงพ่อเง่า ในสายวิชาดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์แล้วกับประชาชนทั่วไป และเป็นที่ยอมรับ และพิสูจน์ให้เห็นจริงและประจักษ์กับพยานบุคคลที่ยืนยันได้หลายท่าน ปัจจุบันบางท่านยังมีชีวิตอยู่ การเก็บข้อมุลมานานกว่า 20 ปี จึงนำมาถ่ายทอดลงในหนังสือเล่มประวัติศาสตร์เล่มนี้ ในเทปบันทึกเสียง ของหลวงพ่อทบ ที่ผู้ใหญ่แฉล้ม สัมภาษณ์หลวงพ่อไว้ ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ - หลังจากที่หลวงพ่อทบท่านได้เรียน วิชาสายวิชาต่างๆสำเร็จแล้ว ท่านก็ได้ออกจาริกธุดงค์วัตร ออกรุกขมูลไปตามสถานที่สัปปายะเจริญจิตรภาวนาจากเพชรบูรณ์ ไปตามสถานที่ต่างๆ และหลวงพ่อทบ ท่านได้ที่ถ่ำเขาวัวแดง ///// จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ เป็นสถามที่อาถรรพ์ และศักดิ์สิทธิ์ เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านในอดีต จะต้องไปเจริญภาวนา ณ. ที่แห่งนี้ เพื่อแสวงหาโมกขธรรมอันเป็นที่สุดของวิชาทางศาสตร์ทางพุทธาคม ในส่วนนี้ขอนำเสนอไว้แค่นี้ไม่อาจกล่าวเกินเลยได้ เพราะจะไปล่วงละเมิดในส่วนของความเป็นจริง เหนือจิตนาการ
0 ความคิดเห็น